คุณสามารถหย่าที่ประเทศสิงคโปร์ในฐานะเป็นชาวต่างชาติได้หรือไม่ ถ้าสามารถทำได้คุณจะต้องคำนึงถึงประการใดบ้าง และมีอะไรจะเกิดขึ้นได้บ้าง ข้อสงสัยเหล่านี้จะได้รับคำตอบดังต่อไปนี้
ในปีค.ศ. 2015 มีรายงานกล่าวไว้ว่า 1 ใน 3 (หรือ 36 %) ของการสมรสที่ประเทศสิงคโปร์เป็นการสมรสระหว่างคนสิงคโปร์กับชาวต่างชาติ โดยมีชาวต่างชาติจดทะเบียนสมรสทั้งหมด 8562 คน
ในปีค.ศ. 2017 มีคดีเกี่ยวกับการสมรสสิ้นสุดลงด้วยการหย่าร้างหรือการตกเป็นโมฆะทั้งหมด 7578 คดี ในขณะที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าในบรรดาคดีการหย่าร้างดังกล่าวนั้นมีชาวต่างชาติเป็นคู่ความกี่คดี แต่ยังพอคาดคะเนได้ว่ามีจำนวนมาก
การหย่าร้างที่ประเทศสิงคโปร์ในฐานะเป็นชาวต่างชาติ
คุณมีสิทธิหย่าหรือไม่
หลักเกณฑ์พื้นฐานที่จะสามารถหย่าที่สิงคโปร์ในฐานะเป็นชาวต่างชาติได้คือ คุณจะต้องเป็นผู้พักอาศัยอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์เป็นประจำไม่น้อยกว่าสามปี ณ วันที่ดำเนินการคดี (มาตรา 93(1) แห่ง Women’s Charter)
อย่างไรถึงเรียกว่า การพักอาศัยเป็นประจำ
ในคดี Lee Mei-Chih v Chang Kuo-Yuan [2002] 4 SLR 1115; [2012] SGHC 180 ศาลสูงแห่งประเทศสิงคโปร์ (Singapore High Court) ได้กล่าวไว้ว่าในการตัดสินว่าผู้ใดถือว่าเป็นผู้พักอาศัยเป็นประจำหรือไม่นั้น ต้องดูที่เงื่อนไขสองประการ ได้แก่ (a) การพักอาศัยนั้นเนื่องมาจากความเสน่หาหรือไม่ และ (b) การพักอาศัยนั้นมีจุดประสงค์ที่จะตั้งถิ่นฐานที่ประเทศสิงคโปร์หรือไม่ กล่าวคือ
- การพักอาศัยนั้นต้องเนื่องมาจากความเสน่หา และไม่มาจากการถูกบังคับ การลักพาตัวหรือการจำคุก หรือแม้แต่กรณีที่ คุณไม่มีวิธีออกจากประเทศสิงคโปร์ได้ (เช่นมีเงินซื้อตั๋วเครื่องบินไม่พอ)
- จุดประสงค์ที่จะตั้งถิ่นฐานไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องพักอาศัยที่สิงคโปร์ถาวร คุณยังสามารถอยู่ที่สิงคโปร์เป็นชั่วคราวได้แต่จุดประสงค์และเหตุผลที่คุณจะพักอาศัยที่สิงคโปร์ต้องชัดเจน อย่างเช่น เพื่อการศึกษา ทำธุรกิจ ประกอบวิชาชีพ สุขภาพ ครอบครัว หรือแม้แต่เพราะชอบสิงคโปร์ นอกจากเหตุผลเหล่านี้แล้ว การที่จะตั้งถิ่นฐานที่สิงคโปร์ยังต้องมีระดับการต่อเนื่องที่พอสมควร
ในคดีดังกล่าว ต่อให้ภริยาไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะตั้งถิ่นฐานที่เด่นมากอย่างในกรณีเพื่อการศึกษา ครอบครัว หรือประกอบวิชาชีพ แต่เนื่องด้วยเขามีพฤติกรรมประจำที่จะกลับมาที่สิงคโปร์เวลาเขาจะเดินทางไปต่างประเทศนั้น ก็ได้แสดงการที่เขาจะตั้งถิ่นฐานที่สิงคโปร์ในระดับที่พอสมควร
ผมบินออกเข้าสิงคโปร์บ่อยมาก ระยะเวลาสามปีนั้นต้องคำนวณยังไง
ในฐานะที่เป็นชาวต่างชาติ คุณอาจจะมีจุดประสงค์ที่จะเดินทางกลับประเทศของตนชั่วคราวเพื่อจัดการเรื่องส่วนตัว หรือเพื่อไปเที่ยวที่ต่างประเทศ ในกรณีเหล่านี้ การเดินทางประเภทดังกล่าวจะส่งผลต่อเงื่อนไขระยะเวลาสามปียังไง
ในคดี Lee Mei-Chih ดังกล่าว ศาลสูงได้วินิจฉัยไว้ว่า ภริยาไม่ได้บรรลุเงื่อนไขการพักอาศัยที่ต่อเนื่องพอสมควร ในขณะที่ศาลสูงได้กล่าวไว้ว่าแต่ละคดีจะพิจารณาตามข้อเท็จจริงของคดีนั้นๆ และการที่ไปเที่ยวต่างประเทศไม่ถือว่าจะขัดแย้งกับการพักอาศัยเป็นประจำ แต่ศาลสูงแห่งประเทศสิงคโปร์จะต้องพิจารณาเหตุผลที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องไปอยู่ต่างประเทศ และระยะเวลาที่จะไปอยู่ต่างประเทศ
ในคดี Lee Mei-Chih ศาลสูงไดัวินิจฉัยว่าภริยาไม่ได้บรรลุเงื่อนไขระยะเวลาสามปีนั้นเนื่องจาก
- เขาใช้ชีวิตที่ประเทศไต้หวันเป็นเวลา 8 เดือนเพื่อดำเนินการคดีเรื่องการหย่าร้าง ซึ่งการที่อยู่ต่างประเทศนานขนาดนี้ไม่สามารถถือว่าเป็นการเที่ยวหรือเดินทางธุรกิจที่ต่างประเทศได้ ต่อให้การดำเนินการคดีหย่าร้าง ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของภริยา แต่ถ้าในการดำเนินการคดีต้องใช้เวลาสองปีในระยะเวลาสามปี ภริยาไม่สามารถถือว่าเป็นผู้พักอาศัยประจำที่สิงคโปร์ได้
- ภริยาก็ได้พักอาศัยอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์เป็นระยะเวลา 4 เดือนเพื่อช่วยให้ลูกสาวตั้งถิ่นฐานเพื่อได้รับการศึกษาที่นั่น
โดยสรุป คุณควรได้รับคำปรึกษาจากทนายความเพื่อได้คำตอบว่า ปัจจัยต่างๆ ของกรณีของคุณได้บรรลุเงื่อนไขการพักอาศัยเป็นเวลาสามปีหรือไม่ ในกรณีที่คำตอบคือไม่ คุณควรพิจารณาว่าการที่จะรอหรือดำเนินการหย่าที่ประเทศของตนจะดีกว่าหรือไม่
ผมควรหย่าที่สิงคโปร์ในฐานะเป็นชาวต่างหรือไม่
ถ้าคุณได้บรรลุเงื่อนไขที่จะหย่าที่สิงคโปร์แล้ว คำถามถัดไปที่จะต้องตอบคือ การที่จะหย่าที่สิงคโปร์ในฐานะเป็นชาวต่างชาติจะดีหรือไม่ กล่าวคือ สิงคโปร์เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการหย่าของคุณหรือไม่
มีปัจจัยต่างๆ ที่ควรพิจารณาในการตัดสินใจที่จะหย่าที่สิงคโปร์หรือที่ต่างประเทศ ถ้าจะเปรียบเทียบกฎหมายเรื่องการหย่าของประเทศสิงคโปร์และของประเทศอื่น คุณต้องคำนึงถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับอำนาจในการปกครองบุตร การดูแลและควบคุมบุตร และการเข้าถึงบุตร อีกเรื่องหนึ่งคือ คุณต้องระมัดระวังเรื่องการใช้ศัพท์เฉพาะในกฎหมายของแต่ละประเทศ เพราะศัพท์เฉพาะที่ใช้จะแตกต่างกันต่อให้ศัพท์เหล่านั้นจะใช้สื่อถึงสิ่งเดียวกัน
อย่างเช่น ฝ่ายที่จะ “อุปการะเลี้ยงดูและควบคุมบุตร” (care and control) มักจะเป็นฝ่ายที่อยู่ด้วยกันกับบุตรทุกอาทิตย์โดยส่วนใหญ่ ในขณะที่ในประเทศอังกฤษจะใช้ศัพท์ว่า “เวลาอุปการะเลี้ยงดู” (parenting time) ในประเทศสหรัฐฯจะใช้คำว่า “การคุ้มครองบุตรอย่างรูปธรรม” (physical custody) แล้วที่ประเทศสิงคโปร์จะใช้คำว่า “การอุปการะเลี้ยงดูและควบคุมบุตร” (care and control) ในทำนองเดียวกัน คำว่า “การเข้าถึง” (access) ในประเทศสิงคโปร์นจะหมายความว่าคนที่จะไปเยี่ยมบุตร ในขณะที่ในประเทศอังกฤษจะใช้คำว่า “คอนแทค” (contact) ส่วนในสหรัฐฯจะใช้คำว่า “สิทธิการเยี่ยม” (visitation rights)
กฎหมายของแต่ละประเทศจะพิจารณาเรื่องการแบ่งสินสมรสไม่เหมือนกัน อย่างเช่น ที่สิงคโปร์สิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษคือ ผลต้องเป็นธรรมและเหมาะสมแก่ทั้งสองฝ่าย ในขณะที่รัฐแคลิฟอร์เนียจุดเริ่มต้นคือหนี้และทรัพย์สินทั้งหมดต้องแบ่งแยกเท่าเทียมกัน
ในประเทศสิงคโปร์ เป็นภริยาหรือสามีที่ไร้ความสามารถ (incapacitated husband) เท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตขอค่าทดแทนจากอีกฝ่ายหนึ่ง ในขณะที่ในประเทศสวีเดน ทั้งสามีภริยาสามารถฟ้องคดีเรื่องการทดแทนได้
โดยสรุป เพื่อประโยชน์ของแต่ละฝ่าย คุณควรจะได้รับคำปรึกษาทนายความในเขตอำนาจศาลที่คุณกำลังวางแผนที่จะหย่าพร้อมคำปรึกษาทนายความที่สิงคโปร์ เพื่อจะได้ตัดสินใจให้ดีที่สุด
Have a question on cross border divorce?
If you have any questions regarding cross border divorce, you can get a Quick Consult with Chong Yue-En or with other lawyers. With Quick Consult, from a transparent, flat fee from $49, a lawyer will call you on the phone to give you legal advice.
This article is written by Chong Yue-En from DCMO Law Practice and edited by Elizabeth Tan from Asia Law Network.
This article does not constitute legal advice or a legal opinion on any matter discussed and, accordingly, it should not be relied upon. It should not be regarded as a comprehensive statement of the law and practice in this area. If you require any advice or information, please speak to practicing lawyer in your jurisdiction. No individual who is a member, partner, shareholder or consultant of, in or to any constituent part of Interstellar Group Pte. Ltd. accepts or assumes responsibility, or has any liability, to any person in respect of this article.